
ไขมัน vs. เซลลูไลท์
ไขมันทั่วไปจะอยู่ในชั้นที่ติดกับกล้ามเนื้อ ลงไป จะมีมากขึ้นเมื่อน้ำหนักเพิ่ม โดยไขมันสามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้เมื่อออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ
ส่วนเซลลูไลท์ Cellulite นั้นเป็น เซลล์ไขมัน ที่อยู่ในชั้นผิวหนังแท้ และแทรกขึ้นในผิวด้านบน จับเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน มีลักษณะ ขรุขระ คล้าย ผิวเปลือกส้ม หรือที่มักเรียกกันทั่วๆไปว่า "ผิวเปลือกส้ม" มักพบได้บริเวณ สะโพก ต้นขา ต้นแขน ก้น หน้าท้อง ที่น่ากลัวก็คือเซลลูไลท์ไม่สามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้ และที่สำคัญไม่ว่าอ้วนหรือผอมก็มีสิทธิ์มีเซลลูไลท์ได้ทั้งนั้น จึงเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ของทุกคนค่ะ
สาเหตุ ของการเกิดเซลลูไลท์ มีได้หลายสาเหตุ เริ่มตั้งแต่ระบบเผาผลาญ อาหารในร่างกายผิดปกติ ขาดการออกกำลังกาย หรืออาจเกิดจากความไม่สมดุลของระบบ ฮอร์โมน เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน โดยที่ ฮอร์โมน เอสโตรเจน จะเป็นตัวที่กระตุ้นการสะสมไขมันในร่างกาย ส่วนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะเป็นตัวที่ทำลายระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองให้เสียไป ทำให้เกิดการสะสมของสารพิษ และส่งผลต่อ คอลลาเจน และ อีลาสติน ในผิว ทำให้โครงสร้างหย่อนคล้อยเสียความยืดหยุ่น ผิว จึงเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน อีกทั้งยังมีความเกี่ยวพันกับการที่ผิวชั้นหนังแท้เสียสภาพสูญเสียน้ำ ทำให้เซลล์ไขมันถูกดันออกมาเรียงตัวไม่สม่ำเสมอ ยิ่งผิวชั้นหนังกำพร้าแห้งและบางก็จะยิ่งทำให้เห็นเซลลูไลท์ได้ชัดขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวไม่แข็งแรง มีลักษณะจับแข็ง ขาดความยืดหยุ่น เพราะเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินน้อยลง หรือเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการสะสมหรือการคั่งของของเหลวที่เป็นของเสียระหว่างเซลล์5.อาบน้ำอุ่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตให้เป็นไปโดยสะดวก
มาดูวิธีจัดการกับเซลลูไลท์ ด้วยตัวเองกันค่ะ 6 ขั้นตอนง่ายๆรับรองทุกคนทำได้
- กินผักผลไม้สดให้มาก
- นวดผิวทุกครั้งเวลาอาบน้ำช่วงเช้า จะช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก
- งดอาหารขยะทุกชนิด
- ไม่กินน้ำอัดลม แอลกอฮอล์ทุกประเภท
- ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เดินหรือวิ่งเหยาะๆ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-45 นาที
- ดื่มน้ำให้มากช่วยดีท็อกซ์ร่างกายให้ระบบต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ถ้าทำไม่ได้ตามนี้ หรืออยากได้ผลเร็ว ทางการแพทย์ก็มีเครื่องมือช่วยค่ะ
เครื่องมือในการช่วยสลายเซลลูไลท์ ก็มีตั้งแต่ การนวดในระดับลึก การสลายไขมันด้วยอุลตร้าซาวน์ด์ การสลายด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ด้วยเมโสเธอราพี การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือที่เรียกว่าคาร์บ๊อกซี่ เครื่องมือเหล่านี้ต่างให้การสลายไขมันด้วยหลักการเดียวกันนั่นคือการกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในจุดที่มีปัญหานั้นๆดีขึ้น เพิ่มการเผาผลาญไขมัน และสลายไขมันใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ดีความสามารถในการสลายไขมันตลอดจนจำนวนครั้งที่จะต้องทำขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี และประสิทธิภาพของเครื่องมือที่เลือกใช้ เครื่องมือบางชนิดมีการผสมผสานความสามารถของเทคโนโลยีต่างๆก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการสลายเซลลูไลท์ เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น เห็นผลเร็วมากขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีเทคโนโลยีใหม่ โดยใช้แสงอินฟราเรด ที่ชื่อว่า Hyperthermia Infrared Bed ซึ่งแก้ปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ได้ดีมาก ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ระบบไหลเวียนเลือด และน้ำเหลืองดีขึ้น ทำให้เกิดการสลายตัวของไขมันสะสม และ เซลลูไลท์ และยังช่วยให้เซลล์ผิวหนังมีชีวิตชีวาและกระชับตึงขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายจะเลือกสลายไขมันด้วยวิธีไหนก็ตาม ควรศึกษาถึงจุดเด่น และประสิทธิภาพในการสลายไขมันของแต่ละวิธีว่าแบบไหนสอดคล้องเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และปัญหาของเรามากที่สุด เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ได้มากที่สุดค่ะ