
ตอนที่ 53 มังคลาครองเมืองลังกา (จบ)
หลังจากพิธีอภิเษกมังคลาเป็นเจ้าเมืองผ่านไป มังคลาก็ได้นัดเหล่าเสนาอำมาตย์มาเพื่อปรึกษาราชการงานเมือง โดยแรกเริ่มมังคลาดำริให้วลายุดาดูแลด่านชั้นใน ส่วนด่านดงตาลให้วายุพัฒน์ดูแลและหัสกันอยู่ที่เมืองใหม่ ทั้งสามมีหน้าที่ช่วยป้องกันด่านทั้งสามจากข้าศึกศัตรู
จากนั้นมังคลาได้จัดแจงให้แต่งสารไปประกาศทั้งลังกาและเมืองต่างๆโดยในสารกำหนดคุณสมบัติคนที่เมืองลังกาต้องการทั้งทางฝ่ายวิชาการและฝ่ายทหาร ภายในเวลาไม่นานนักมีคนมาสามิภักดิ์มากมาย ใครที่มีคุณสมบัติตามต้องการก็ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์อีกทั้งข้าวของเงินทองตามสมควร
"ฝ่ายฝรั่งลังกาประชาราษฎร์
ต่างรู้ความตามประกาศเหมือนมาดหมาย
ที่มีผู้รู้วิชาบรรดาชาย
มาถวายตัวกับพระมังคลา"
ส่วนเมืองอื่นๆที่มังคลาให้ส่งประกาศไปนั้นมีคนพากันมาอยู่กับมังคลามากมายเช่นกัน ทั้งจาม จีน พราหมณ์ แขก ทั้งหมดก็ได้รับบรรดาศักดิ์และเงินทองพร้อมที่อยู่อย่างดี
"พาไปเฝ้าเจ้าลังกาสาพิภักดิ์
ให้ยศศักดิ์พร้อมสิ้นทั้งถิ่นฐาน
ตั้งฝึกฝนพลนิกรรู้รอนราญ
ล้วนเชี่ยวชาญชั้นเชิงละเลิงใจ"
เรื่องที่มังคลาตระเตรียมมาทั้งหลายนี้ก็เพื่อจะไปแก้แค้นเมืองผลึก แล้ววันหนึ่งหัสกันกลับจากการลาดตระเวนทางน้ำได้เข้ามาบอกเรื่องเมืองการเวกที่นางเสาวคนธ์หนีไป ส่วนเมืองผลึกนั้นไม่มีใครอยู่เหลือแต่นางสุวรรณมาลีเพราะพระอภัยมณีเดินทางไปเมืองรัตนา
มังคลาเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมจึงคิดเดินทางไปทันทีโดยก่อนออกเดินทางได้เข้าไปบอกกับนางลเวงวัณฬาผู้เป็นแม่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปตรวจชายแดน
"ไปปราสาทมาตุรงค์ทรงพระยศ
น้อมประณตบังคมก้มเกศา
พรุ่งนี้เช้าเกล้ากระหม่อมจะทูลลา
ไปตรวจตราแดนด่านชานนคร"
รุ่งเช้ามังคลาออกเดินทาง ระหว่างทางผ่านป่าเขาลำเนาไพรจนกระทั่งเวลาเย็นขบวนได้หยุดพักที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง แต่พอตกดึกราวตีสามเกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วป่าทั้งยังมีฟ้าผ่าลงมาเป็นสีรุ้ง เมื่อแสงสีรุ้งหายไปก็ปรากฏร่างผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนที่ หญิงคนนี้มีผมสีแดงชาดส่วนเครื่องแต่งกายก็ประหลาดนักคือมีคราบงูสวมต่างเสื้อ นัยน์ตาทั้งสองข้างดำสนิทและนางอายุราวสิบขวบเศษเท่านั้น มังคลาแปลกใจยิ่งนักจึงเดินตามนางไป เมื่อทหารจะพากันจับตัวนางจึงกางนิ้วออกมาเป็นตัวนาคทั้งห้านิ้ว ทหารจึงไม่กล้าจับนาง จากนั้นนางจึงเดินหนีไปนั่งหน้าถ้ำและขับลำนำเรียกหาพระมังคลา
"แล้วนางนั่งหลังศิลาตรงหน้าถ้ำ
ร้องลำนำฉ่ำเสียงสำเนียงหวาน
และละห้อยคอยหาอยู่ช้านาน
เมื่อไหร่จะพานพบพระมังคลา
จะได้อยู่ชูช่วงดวงประทีป
ให้รอดชีพชีวันชันษา
โอ้เจ้าดาวจระเข้เทวดา
อยู่ที่ไหนไม่มาหาน้องเลย"
มังคลาสงสัยยิ่งนักจึงให้อำมาตย์ราชครูทำนายซึ่งราชครูได้บอกว่าสตรีคนนี้คงมิใช่ผีสางและคนไม่ดี หากแต่คงเป็นผู้ประเสริฐและน่าจะมีชาติกำเนิดเป็นนาค ที่สำคัญจะมาช่วยเสริมบุญญาธิการของมังคลาให้ปรากฏไปทั่วทุกแคว้น
มังคลาจึงตัดสินใจรับนางไว้โดยไปแสดงตัวกับนางว่าตนเองคือพระมังคลาที่นางกล่าวถึงและนำตราพระราหูให้นางดู นางจึงยินยอมถวายตัวเป็นข้าโดยทันที
จากนั้นมังคลาจึงตั้งชื่อให้นางว่านางสุนี
"นางเห็นตราราหูคู่ทวีป
ดังประทีปเทียนสว่างกระจ่างฉาย
คุกเคารพนบนอบนั่งยอบกาย
ยอมถวายกายาเป็นข้าไท"
มังคลาเดินทางต่อไปก็ไปพบด่านของวลายุดาที่ออกมารับและพักอยู่ที่ด่านนั้นสี่วัน จากนั้นเดินทางต่อไปด่านดงตาลโดยวายุพัฒน์ออกมาต้อนรับโดยนำกำลังสมทบกันเดินทางต่อไปที่ด่านของหัสกัน จากนั้นทั้งหมดจึงตั้งค่ายอยู่ริมน้ำเพื่อปรึกษาการศึกต่อไป
มังคลาเดินทางออกจากเมืองเพื่อไปชิงโคตรเพชรแล้ว เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร แล้วมังคลาจะรบกับพ่อและพี่ๆของตนเองหรือไม่ อย่าลืมติดตามอ่านได้ต่อในฉบับหน้านะคะ